ไคท์เซิร์ฟ กีฬาทางน้ำสาย Freestyle คือจุดที่ไคท์เซิร์ฟข้ามจาก “แค่ลากบอร์ดไปบนผิวน้ำ” กลายเป็น “การเต้นรำกับลมและคลื่นแบบสามมิติ” เพราะไม่ใช่แค่ไถไป–กลับ แต่เป็นการกระโดดสูง หมุนตัว พลิกบอร์ด จับบอร์ดกลางอากาศ แล้วลงน้ำให้เนียนราวกับทุกอย่างง่ายมาก ทั้งที่จริงๆ ต้องใช้ทั้งเทคนิค ความฟิต และความกล้าแบบมีสติในระดับสูง

ในยุคที่กีฬา Extreme ถูกถ่ายทอดสดกันให้ดูกันแทบทุกแพลตฟอร์ม คนรักกีฬาและสายลุ้นก็ได้เปรียบสุดๆ เพราะนอกจากจะได้ดูคลิป Big Air หรือ Freestyle มุมสโลว์แล้ว ยังเอาข้อมูลเหล่านี้ไปวิเคราะห์ต่อยอดกับกีฬาประเภทอื่นได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล บาส มวย หรือเกมการแข่งขันระดับโลกอื่นๆ ที่เปิดให้ลุ้นผลกันแบบเรียลไทม์ ใครที่ชอบรวมโลกสายกีฬาไว้ที่เดียวก็สามารถใช้แพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง ทางเข้า UFABET ล่าสุด เป็นศูนย์กลางจัดการเรื่องการลุ้นและการเชียร์ของตัวเองได้ แต่จะเล่นเองหรือลุ้นผลแบบไหน ก็ต้องจำไว้เสมอว่า “ความสนุกต้องไม่เกินขอบเขตที่เราคุมได้”
บทความนี้ เราจะพาไปดูกันแบบละเอียดว่า ถ้าเราเล่นไคท์เซิร์ฟระดับพื้นฐานเป็นแล้ว อยากอัปเลเวลสู่สาย Freestyle/Big Air ต้องเตรียมตัวในมุมไหนบ้าง ทั้งเรื่องอุปกรณ์ที่ต้องเลือกเพิ่ม เทคนิคการอ่านลม การคุมว่าว การฝึกเล่นท่าอย่างปลอดภัย วิธีค่อยๆ ขยับจากท่าง่ายสู่ท่ายาก รวมถึงมุมจิตวิทยาที่สำคัญไม่แพ้สกิลทางเทคนิค
ไคท์เซิร์ฟสาย Freeride VS Freestyle VS Big Air ต่างกันยังไง
ก่อนจะโดดไป Freestyle ขอแยกภาพให้ชัดก่อนว่าโลกของไคท์เซิร์ฟมี “สายเล่น” ประมาณไหน
Freeride – สายฟีลกู้ด
- เน้นความลื่นไหลบนผิวน้ำ
- มีจั๊มป์บ้าง แต่ไม่เน้นท่าโหด
- เล่นเพื่อความสุข ความชิล เป็นหลัก
Freestyle – สายทริค สายหมุน สายเล่นกับแรงส่ง
- ใช้บอร์ดแบบ Twin-Tip เป็นหลัก
- โฟกัสที่การเด้งออกจากน้ำ (Pop) และการใช้แรงดึงของว่าว
- หมุนตัว หมุนบอร์ด จับบอร์ดกลางอากาศ ฯลฯ
Big Air – สายบินสูง ระเบิดความสูงแบบเกินมนุษย์
- ใช้ลมแรงเป็นเพื่อนสนิท
- เน้นการกระโดดสูงมากๆ แล้วเล่นท่าระหว่างลอย
- ต้องคุมทั้งจังหวะขึ้นและลงอย่างแม่น
คนเล่นจำนวนมากเริ่มจาก Freeride → แล้วค่อยเพิ่ม Freestyle/Big Air ตามความชอบ บางคนก็เล่นผสมกันแล้วแต่สภาพลมในวันนั้น
โครงสร้างสกิลของไคท์เซิร์ฟ กีฬาทางน้ำสาย Freestyle
ถ้าลองแบ่งเป็นเลเวลแบบเกม สาย Freestyle จะมีโครงสกิลประมาณนี้
- พื้นฐาน: คุมว่าวมั่น / ไป–กลับได้ / ขึ้นลมเป็น
- ระดับกลาง: เริ่ม Pop จากน้ำ / กระโดดเตี้ยๆ / เล่นท่าพื้นฐาน
- ระดับสูง: ควบคุมลมแรงได้ / กระโดดสูง / เล่นท่าหมุนหลายจังหวะ / จับบอร์ดกลางอากาศ
สิ่งสำคัญไม่ใช่การรีบข้ามขั้น แต่คือการทำให้ “พื้นฐานแน่นจนลืมว่าตัวเองกำลังทำ” แล้วค่อยใส่เลเยอร์ทริคเพิ่มเติมเข้าไป
อุปกรณ์สำหรับไคท์เซิร์ฟสาย Freestyle และ Big Air
แม้จะใช้ชุดไคท์เซิร์ฟคล้ายสาย Freeride แต่รายละเอียดบางอย่างต่างกันพอสมควร
Kite (ว่าว)
- ว่าวสำหรับ Freestyle มักเน้นการตอบสนองไว (Reactive) และให้แรงดึงดีเวลาเราดึงบาร์
- ว่าวสำหรับ Big Air มักถูกออกแบบให้ขึ้นสูง และให้แรงยกดี แลนดิ้งคุมได้
ขนาดว่าวต้องเลือกตามน้ำหนักตัวและแรงลมประจำจุดเล่น ถ้าลมแรงเกินแต่ใช้ว่าวใหญ่ไป ก็จะกลายเป็น “โดนลาก” มากกว่า “เราเล่นว่าว”
Board (บอร์ด)
- สาย Freestyle นิยมบอร์ด Twin-Tip ที่มีความแข็งและ Flex พอเหมาะ
- ความยาว–กว้างต้องบาลานซ์ระหว่างการ “แล่น” กับการ “เด้ง” ออกจากน้ำ
บอร์ดที่เล็กเกินไปจะจมน้ำง่ายตอนลมไม่แรง แต่บอร์ดใหญ่เกินก็ทำให้รู้สึกเทอะทะตอนเล่นท่า
Harness (ฮาร์เนส)
- สาย Freestyle/Big Air มักชอบฮาร์เนสแบบแข็งขึ้นหน่อย เพื่อรับแรงดึงตอนโดนยกขึ้นสูง
- ต้องฟิตกระชับตัว ไม่หมุนไปหมุนมา เวลาโดนลากหรือกระแทก
ตารางเปรียบเทียบแนวอุปกรณ์สำหรับสิ่งที่คุณอยากเน้น
| แนวการเล่น | ประเภทว่าวโดยรวม | บอร์ดที่เหมาะ | ความรู้สึกตอนเล่นหลักๆ |
|---|---|---|---|
| Freeride ชิลๆ | All-round / Freeride | Twin-Tip ขนาดกลาง | ลื่นไหล ชิล สนุก วิ่งไป–กลับยาวๆ |
| Freestyle ทริค | Wakestyle / Freestyle | Twin-Tip ค่อนข้างแข็ง | เด้งแรง Pop ชัด คอนโทรลท่าดี |
| Big Air กระโดดสูง | High Aspect / Big Air | Twin-Tip / บอร์ดเน้นคุมลง | ขึ้นสูง ลอยนาน แลนดิ้งต้องดีมาก |
ตารางนี้ไม่ได้บังคับว่าต้องเป็นแบบนี้เป๊ะ แต่อย่างน้อยช่วยให้เราเห็น “ทิศ” ว่าถ้าอยากเน้นสายไหน ก็ควรเซ็ตอุปกรณ์ให้ไปในทางนั้น
ทักษะพื้นฐานที่ต้อง “โคตรแน่น” ก่อนจะเล่น Freestyle
ก่อนโดดไปหมุนกลางอากาศ มีสิ่งที่ควรเช็กตัวเองให้ได้ก่อน
คุมว่าวได้แบบไม่ต้องคิด
- เปลี่ยนทิศลมเบา–แรงได้โดยไม่สับสน
- รู้สึกได้ว่าตอนนี้ว่าวอยู่ส่วนไหนของหน้าต่างลม
- ลด–เพิ่มพาวเวอร์ของว่าวจากบาร์ได้แม่น
ถ้าต้อง “คิดนาน” ทุกครั้งก่อนจะดึงบาร์หรือหักว่าว แปลว่ายังไม่พร้อมไปทริคหนักๆ เพราะ Freestyle คือการทำหลายอย่างในไม่กี่วินาที
ไป–กลับได้สบาย ขึ้นลมได้มั่นคง
- วิ่งไป–กลับได้ โดยไม่หลุดลงลมตลอดเวลา
- รู้ว่าตัวเองต้องเอียงบอร์ดยังไงเพื่อขึ้นลม
- หยุดและออกตัวใหม่ได้ตามใจ ไม่ใช่เพราะลมบังคับ
สรุปคือ ถ้ายังกังวลเรื่อง “กลับฝั่งจะไหวไหม” อยู่ตลอด ควรทำพื้นฐานให้แน่นกว่านี้ก่อนจะเพิ่มท่า
หลักฟิสิกส์ง่ายๆ ของการ “เด้งจากน้ำ” (Pop)
หัวใจหนึ่งของไคท์เซิร์ฟ กีฬาทางน้ำสาย Freestyle คือคำว่า “Pop” หรือการเด้งออกจากผิวน้ำ โดยใช้แรงต้านของบอร์ดและแรงดึงจากว่าวมารวมกัน
หลักคิดแบบง่ายมากๆ:
- ขณะวิ่งด้วยสปีดที่ดี ให้กดขอบบอร์ดฝั่งที่อยู่ด้านลม (Edge) ลงไปในน้ำ
- บอร์ดจะต้านน้ำไว้แบบหนึ่ง
- เมื่อถึงจังหวะที่เหมาะ ให้ “ปล่อย” แรงต้านนั้นแบบดีดตัวขึ้น พร้อมกับดึงบาร์ให้ว่าวส่งแรงเพิ่ม
- แรงต้าน + แรงดึง = เราลอยออกจากน้ำ
ช่วงฝึกใหม่ๆ เรามักจะ
- ปล่อยแรงเร็วเกินไป → เด้งนิดเดียว
- หรือรอช้าเกินไป → ความเร็วหาย ล้มเฉยๆ
ทริคคือต้อง “รู้สึกน้ำ” ว่าตอนที่เรากด Edge จนตึงสุดคือจุดที่ Pop แล้วจะได้แรงที่สุด
โครงฝึกจากท่าง่ายไปท่ายากในสาย Freestyle
แทนที่จะกระโดดไปลองท่ายากทันที เราแบ่งเส้นทางให้ค่อยๆ ไต่ระดับดีกว่า
ระดับเริ่มต้น Freestyle
- กระโดดตรงๆ เล็กๆ เพื่อชินกับแรงยก
- ฝึกลงน้ำให้มั่นคง ก่อนจะสนใจเล่นท่าหมุน
- ฝึกรู้ว่าตอนอยู่กลางอากาศต้องทำอะไรกับบาร์และว่าว
ระดับกลาง
- เริ่มลองหมุนตัว 180° / 360°
- ลองปล่อยมือเล็กน้อย (Grab บอร์ดมือเดียว)
- ฝึกส่งว่าวให้ดึงกลับช่วยตอนจะแลนดิ้ง
ระดับสูง
- เล่นท่าหมุนหลายจังหวะ
- ผสม Spin + Grab + Board Flip
- เริ่มใช้ลมแรงแบบ Big Air เพื่อสร้างความสูงระดับ “คนดูเงยคอ”
ทุกครั้งที่เพิ่มท่าใหม่ ควรกลับไปเริ่มแบบสเต็ปเล็กๆ ก่อน เช่น ลองในลมอ่อน ลองหมุนนิดเดียว แล้วค่อยเพิ่มองศาและสปีดทีหลัง
การอ่านลมสำหรับสาย Freestyle/Big Air
สำหรับไคท์เซิร์ฟ กีฬาทางน้ำสาย Freestyle การอ่านลมกลายเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากขึ้น เพราะไม่ใช่แค่ “วันนี้เล่นได้ไหม” แต่เป็น “วันนี้เล่นแบบไหนได้”
ลมอ่อน–กลาง
- เหมาะกับการฝึกท่าใหม่ๆ
- ความเร็วและแรงดึงไม่โหดเกินไป ถ้าพลาดก็เจ็บน้อยลง
- แต่ความสูงจะไม่เยอะมาก เหมาะกับ Focus ที่เทคนิค
ลมแรงกว่านั้น
- เหมาะกับ Big Air และท่าที่ใช้แรงลมช่วยเยอะ
- ต้องมั่นใจว่าเลือกขนาดว่าวเหมาะ และสกิลคุมว่าวดีจริง
- จำเป็นต้องใส่อุปกรณ์เซฟตี้ให้ครบ และไม่เล่นคนเดียว
การรู้ว่า “วันนี้ควรฝึกอะไร” ตามสภาพลม จะช่วยให้คุณเก่งเร็วโดยไม่ต้องแลกด้วยการบาดเจ็บเกินจำเป็น
การฝึกบนบกเพื่อเสริมสกิล Freestyle
เล่นท่าในน้ำอย่างเดียวไม่พอ ถ้าอยากให้ร่างกายตอบสนองทัน ต้องฟิตบนบกด้วย
การฝึกกล้ามเนื้อ
- Core (หน้าท้อง–หลังส่วนล่าง): เพื่อบาลานซ์กลางอากาศและตอนลงน้ำ
- ขา: รับแรงกระแทก แลนดิ้ง และกด Edge
- ไหล่–หลัง: คุมบาร์ และรับแรงดึงจากว่าว
การฝึกบาลานซ์
- ใช้ Balance Board
- ฝึกยืนบนพื้นไม่มั่นคง เช่น BOSU หรือแผ่นโฟม
- ช่วยให้ข้อเท้า เข่า และสะโพกตอบสนองไวขึ้น
เล่นท่าอย่างปลอดภัย: กฎเหล็กที่ควรท่องให้ขึ้นใจ
สาย Freestyle ที่อยู่ได้นาน ไม่ใช่คนที่โหดสุด แต่เป็นคนที่ “ฉลาดสุดเวลาเลือกเสี่ยง”
หลักง่ายๆ:
- ถ้ารู้สึกว่าลมเริ่มกระชากเกินไป ให้ลดขนาดว่าว หรือลดท่าลง
- ถ้ารู้สึกว่าเริ่มล้า ให้พักจริง ไม่ฝืนเพื่อเอาคลิปสวย
- เริ่มท่าใหม่ในจุดที่ไม่มีคนอยู่ใกล้ๆ เพื่อลดโอกาสชนกัน
จำไว้ว่า ท่าที่สวยที่สุด คือท่าที่เราเล่นได้อีกหลายปี โดยไม่ต้องนั่งดูคนอื่นเล่นเพราะตัวเองเจ็บ
มุมคนดู–คนลุ้น: Freestyle/Big Air บนหน้าจอ กับการวิเคราะห์แบบสายกีฬา
การดูการแข่งขัน Big Air ระดับโลก หรือคลิป Freestyle โหดๆ นอกจากจะมันแล้ว ยังทำให้เราเข้าใจมิติของกีฬาแบบที่คนไม่เล่นจะไม่ค่อยเห็น
คุณจะเริ่มสังเกตว่า
- นักกีฬาแต่ละคนมีสไตล์ต่างกัน – บางคนเน้นสูง บางคนเน้นท่าซับซ้อน
- สภาพลมมีผลต่อการเลือกท่าและความเสี่ยง
- การลงน้ำที่ดีคือองค์ประกอบสำคัญของคะแนน ไม่ใช่แค่ตอนลอย
คนที่ชอบวิเคราะห์แบบนี้มักจะสนุกกับการดูหลากหลายกีฬาไปพร้อมกัน ทั้งฟุตบอล บาส มวย และอื่นๆ แล้วต่อยอดไปสู่การ “ลุ้นผล” ในตลาดเดิมพันกีฬาอย่างมีระบบและมีข้อมูลประกอบ ถ้าคุณอยากรวมทั้งการดู การวิเคราะห์ และการจัดการบิลต่างๆ ไว้ที่เดียว ก็สามารถใช้แพลตฟอร์มอย่าง สมัคร UFABET เป็นพื้นที่กลางของตัวเองได้เช่นกัน แต่อีกครั้งที่เราขอย้ำคือ การลุ้นต้องยืนอยู่บนพื้นฐานของสติและการจำกัดงบที่ชัดเจนเสมอ
ปัญหาที่เจอบ่อยของสาย Freestyle และวิธีรับมือ
1️⃣ปัญหา: กระโดดได้ แต่ลงแล้วเจ็บทุกที
- สาเหตุ: ไม่ได้ใช้ว่าวช่วยรับจังหวะลง / เข่าตึงเกินไป / ไม่ยอมย่อรับแรง
- วิธีแก้:
- ฝึกลดความสูงลง แล้วโฟกัสที่การแลนดิ้ง
- ย่อเข่าตั้งแต่ก่อนสัมผัสน้ำ และใช้ Core ช่วยคุมตัว
- ฝึกให้ว่าวอยู่ในตำแหน่งที่ช่วยดึงเล็กๆ ตอนลงน้ำ
2️⃣ปัญหา: กลัวลมแรงจนเล่นไม่ได้
- ลมแรง = ต้องใช้ความเคารพ ไม่ใช่ความกลัว
- ค่อยๆ เพิ่มระดับลมทีละขั้น และทำความเข้าใจจังหวะการคุมว่าว
- ถ้าใจยังไม่พร้อม ให้ใช้เวลาฝึกท่าในลมกลางๆ ก่อน
3️⃣ปัญหา: รู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งเท่าคนอื่นในจุดเล่นเดียวกัน
- เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นมากไปทำให้หมดสนุกเร็ว
- ให้เปลี่ยนมาเปรียบเทียบกับ “ตัวเราเมื่อเดือนก่อน” แทน
- ถ้าชัดว่าอยากเก่งขึ้นจริง ให้ขอคำแนะนำจากคนเก่งๆ ตรงๆ เลย ส่วนใหญ่ยินดีช่วย
FAQ: คำถามยอดฮิตสายไคท์เซิร์ฟ Freestyle/Big Air
ต้องเล่นไคท์เซิร์ฟมานานแค่ไหนถึงจะเริ่มเล่น Freestyle ได้?
ไม่มีตัวเลขตายตัว แต่โดยทั่วไปควรเล่นจนไป–กลับได้สบาย ขึ้นลมได้ และคุมว่าวแบบไม่ต้องคิดมากเสียก่อน บางคนใช้เวลาไม่กี่เดือน บางคนใช้เวลาปีนึง ขึ้นกับความถี่ที่ลงน้ำและพื้นฐานกีฬาอื่นๆ ที่มี
ถ้าร่างกายไม่ฟิตมาก จะเล่น Freestyle ได้ไหม?
ได้ แต่ต้องยอมรับว่าความฟิตคือเกราะป้องกันหลักอย่างหนึ่ง ถ้าอยากเล่นท่าบ่อยๆ และลดโอกาสบาดเจ็บ ควรเสริมฟิตเนสควบคู่ไปด้วย อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง
Big Air ต้องเล่นในลมแรงแค่ไหน?
ขึ้นกับจุดเล่นและอุปกรณ์ แต่แนวๆ คือ ต้องลมแรงกว่าที่ใช้เล่น Freeride/ท่าพื้นฐานอย่างชัดเจน ซึ่งการเล่นในลมระดับนั้นต้องอาศัยประสบการณ์สูง และไม่ควรเป็นเป้าหมายแรกๆ ของมือใหม่
ถ้ากลัวความสูง ควรไปสาย Freestyle ไหม?
ได้เหมือนกัน เพราะ Freestyle ไม่จำเป็นต้องกระโดดสูงเสมอไป คุณสามารถเน้นท่าที่ใช้ความสูงปานกลางหรือเล่นท่าที่เน้นการหมุนหรือ Grab ใกล้น้ำได้ ก่อนค่อยไต่ระดับทีหลังถ้ารู้สึกว่าตัวเองโอเคกับความสูงมากขึ้น
เล่น Freestyle แล้วอันตรายกว่าสาย Freeride มากไหม?
โดยธรรมชาติของการเพิ่มความสูงและหมุนตัว ความเสี่ยงย่อมเพิ่มขึ้น แต่สามารถบริหารความเสี่ยงได้ด้วยการเลือกสภาพลมที่เหมาะสม ใส่อุปกรณ์ครบ ฝึกทีละสเต็ป และไม่ฝืนในวันที่รู้สึกว่าร่างกายไม่พร้อม
ต้องมีบอร์ดเฉพาะสายทริคไหม?
เริ่มแรกสามารถใช้บอร์ด All-round ที่คุณมีอยู่แล้วได้ เมื่อเริ่มจริงจัง ค่อยอัปเกรดไปบอร์ดที่ออกแบบสำหรับ Freestyle โดยเฉพาะ ซึ่งจะเด้ง (Pop) ได้ดีขึ้นและตอบสนองตามที่คุณต้องการมากกว่า
มีอายุแล้ว ยังเริ่ม Freestyle ได้ไหม?
อายุไม่ใช่กำแพงถ้าร่างกายโอเคและตรวจสุขภาพแล้วไม่มีข้อห้ามเรื่องกระแทกหรือเล่นกีฬา Extreme แต่อาจต้องเพิ่มเวลาในการฟื้นตัว และเน้นความปลอดภัยมากเป็นพิเศษ เลือกท่าที่เหมาะกับตัวเอง ไม่จำเป็นต้องตามเด็กๆ ทุกท่า
ไคท์เซิร์ฟ กีฬาทางน้ำสาย Freestyle คือการ “เล่นกับลม” ไม่ใช่ “ฝืนลม”
สุดท้ายแล้ว ไคท์เซิร์ฟ กีฬาทางน้ำสาย Freestyle ไม่ได้มีไว้แค่โชว์ว่ากระโดดได้สูงเท่าไหร่ หรือหมุนได้กี่รอบ แต่คือศิลปะของการยอมรับพลังของลมและคลื่น แล้วเอาตัวเราเข้าไปเต้นรำกับมันอย่างสวยงามที่สุดเท่าที่จะทำได้
เมื่อคุณค่อยๆ พัฒนาจากการยืนบอร์ดบนผิวน้ำ ไปสู่การเด้งเล็กๆ กระโดดเตี้ยๆ หมุนตัวครั้งแรก จับบอร์ดครั้งแรก และในสักวันหนึ่งคุณอาจลอยอยู่กลางอากาศมองลงมาที่ผิวน้ำด้วยความรู้สึกว่า “นี่แหละ ร่างกายกับธรรมชาติที่กำลังคุยกันอยู่” นั่นคือรางวัลที่ยิ่งใหญ่กว่าสกอร์หรือคลิปเท่ๆ บนโซเชียลเสียอีก
สำหรับคนที่รักกีฬา รักความท้าทาย และมองโลกการแข่งขันกีฬาในมิติที่กว้างกว่าผลสกอร์เฉยๆ การได้ดูไคท์เซิร์ฟ Freestyle/Big Air แล้วนำวิธีคิดเรื่องการอ่านลม การประเมินความเสี่ยง และการวางแผนท่ามาใช้กับการวิเคราะห์กีฬาประเภทอื่น ก็เป็นอีกความสนุกหนึ่งที่เติมสีสันให้ชีวิตได้ดี และถ้าคุณอยากรวมการดู การเชียร์ และการจัดการบิลเดิมพันกีฬาต่างๆ ไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ก็สามารถใช้บริการจากผู้ให้บริการที่คุ้นชื่อกันดีอย่าง ยูฟ่าเบท เพื่อเป็นสนามออนไลน์อีกแห่งสำหรับคนรักกีฬาได้ แต่ไม่ว่าคุณจะลุ้นผลบนหน้าจอ หรือกำลังลอยตัวอยู่กลางคลื่น สิ่งเดียวที่ต้องถือแน่นๆ ก็คือสติและการรู้ขอบเขตของตัวเองเสมอ
ขอให้ทุกครั้งที่คุณกางว่าว ล็อกฮาร์เนส และวางบอร์ดลงบนผิวน้ำ หัวใจจะเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นแบบพอดีๆ ไม่ใช่ความกลัวเกินไปหรือความกร่างเกินเหตุ และไม่ว่าจะกระโดดสูงแค่ไหน ในตอนที่เท้ากลับมาแตะผิวน้ำอีกครั้งก็ยังยิ้มได้ พร้อมจะบอกตัวเองว่า “ไปต่ออีกท่าไหม” ทุกครั้งที่คิดถึงไคท์เซิร์ฟ กีฬาทางน้ำสาย Freestyle 🌊🪁💙